มาตรฐานกรรมการบอลไทย..(วิเคราะห์ หลังเกมส์ ปัตตานี-ภูเก็ต)

[fa-room]

ในทุกครั้งที่มีการแข่งขันฟุตบอล คนที่มีอำนาจมากที่สุดบนสนามหญ้าก็คงไม่พ้น คนที่มีนกหวีดแขวนไว้ที่คอ และคอยโบกสัญญาณมือไปมาด้วยท่าทางต่างๆ ..ขอโทษ.....เราไม่ได้หมายถึงตำรวจจราจรน่ะโว๊ย..!!
แต่มันคือท่านคณะกรรมการผู้ทรงเกียติต่างหาก
หลายครั้งที่เกมส์การแข่งขันเกิดความสะดุด และรู้สึกขัดใจ ขัดหน้าอกบรรดากองเชียร์ส่วนหนึ่งก็มาจากการควบคุมเกมส์ และการตัดสินที่ผิดพลาดของกรรมการทั้งหลาย เช่น มีการทำฟาวล์เกิดขึ้น ...แต่พี่ท่านไม่เป่า
มีการเข้าบอลรุนแรงกันเกินไป...แต่พี่ท่านก็ไม่เป่า อีก สงสัยคงต้องรอให้ขาขาด 2 ท่อนก่อน แต่ในบางครั้งนักเตะสะดุดเงาล้มลง คุณพี่ท่านกลับเป่าเฉยเลยครับ.. ซึ่งจากหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมส่งให้ผู้เล่นบางคนไม่สบอารมณ์ มีความรู้สึกอยากกระโดดถีบหน้าใครบางคนเป็นอย่างยิ่ง..

ย้อนกลับไปเมื่อวันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา หากใครได้พาตัวเองเข้าไปดูบอลที่สนามกลางปัตตานี หรือเรียกเป็นทางการว่า .. สนามRainbow Stadium.. ซึ่งในวันเป็นการพบกันระหว่างทีม ปัตตานี กับ ผู้มาเยือน ภูเก็ต โดยตลอดเกมส์การแข่งขัน ทั้ง 2 ทีมก็ได้เล่นกันอย่างเต็มที่ โดยผลการแข่งขันจบลง ที่ เสมอ กันแบบอารมณ์กองเชียร์แอบเซ็งจิต เล็กน้อยถึงปานกลาง คือ 1-1

โดยภาพรวมแล้ว ในครึ่งแรกปัตตานีเล่นได้ดีกว่า แต่กลายเป็นภูเก็ตที่ได้ประตู นำไปก่อน 1-0 แต่ปัตตานีก็ตามมาตีเสมอได้ภายในครึ่งแรกทันที ทำให้จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีม เสมอกันอยู่ 1-1 พอเข้าสู่ครึ่งหลังกลายเป็นว่า ภูเก็ตเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า และมีโอกาสยิ่งไปหลายครั้ง แต่ลูกบอลหลุดกรอบ ออกไปคุยกับนกบนอากาศเป็นส่วนใหญ่ ทำให้จบเกมส์ เลย เสมอกันไป 1-1

ตลอดเกมส์การแข่งขันเราจะเห็นได้ว่า มีอยู่จังหวะที่ กรรมการตัดสินผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นลูกล้ำหน้า หรือ การทำฟาวล์ของทั้ง 2 ฝ่าย
ซึ่งเหตุการณ์นี้เองทำให้อุณภูมิในสนามเริ่มเดือดมากขึ้น มีการทำฟาวล์แบบน่าเกลียด แต่พี่ท่านก็ไม่เป่าสะงั้น สงสัยวินาทีนั่น คงไปมัวแต่นึกถึงหน้าเมียที่บ้านเลย “++___++” หรือไม่ก็ดารานางแบบที่ขึ้นปกนิตยสาร FHM อยู่
อย่างเช่นช่วงท้ายเกมส์ตอนที่ผู้เล่นฝั่งปัตตานี บาดเจ็บ นอนโครยอวดโอยอยู่ในสนาม แทนที่กรรมการจะเป่าหยุดเกมส์ให้เจ้าหน้าทีทีมมาดูอาการ แต่กลับปล่อยให้ฝั่งภูเก็ตเล่นบอลต่อ เหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นเลย....

แต่ที่เห็นแล้วที่รู้สึกคันเท้าอย่างยิ่งก็คือ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของท้ายครึ่งหลัง คุณพี่ผู้ช่วยกรรมการท่าน


ทดเวลาไป ..........


.............



........ไป..


..... ไป



... 1 นาที

โอ้ ห หหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห์ my gods and robin นี่กรูไม่ได้ตาฝาดใช่ไหมเนี๊ยะ ..

ขนาดกรรมการบอล อบต. หรือ กรรมการ บอลวัดที่บ้านก็ยังรู้เลยว่า 1 นาที น้อยไป

แต่พี่แกทด 1 นาที จริงๆ เห็นแล้ว อยากจะสบถ เป็นภาษาจีน + ไทย สมัยใหม่ ว่า “ อ้าย วรนุช ”

ขนาดเกมส์ทั่วไปต่อให้ไม่มีอาการบาดเจ็บของผู้เล่นมาเกี่ยวข้อง อย้างน้องก็ทด 2-3 นาที เป็นอย่างต่ำ

ไม่ทราบว่าคุณพี่ ต้องรีบไปรับลูกที่ โรงเรียนหรอ....สงสัยในอารมณ์เวลาพี่แกอยากกลับบ้านใจจะขาดแล้ว

ถ้าทดมากกว่านี้ก็ไม่มีใครว่ามรึงหรอก

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ตอนจบเกมส์เกิดความวุ่นวายเล็กน้อย เนื่องจากผู้เล่นฝั่งปัตตานีบางคน พยายามกรู เข้าไปสอบถามกรรมการ ว่าทำไม ทดน้อยจัง และ อีกหลายๆ เหตุการณ์ที่ข้องใจ

แต่สงสัยพี่แก ช่วงนั่นหูคงจะตึงชั่วขณะ

เลยไม่ตอบอะไรกลับมาสักคำ

หลังจากแข่งเสร็จวันนั้น ทำให้ผู้เขียนเข้าใจในความรู้สึกส่วนตัว ของตัวเองเลยว่า ทำไม ทีมกุยบุรี ถึงได้ไล่ตามกระทืบกรรมการ อย่างเอาเป็นเอาตาย จนกลายเป็นข่าวฉาวไปทั่วประเทศในเวลานั่น

ก็ได้แต่ หวัง และ ก็หวัง ล้ม ๆ แล้ง อีก ว่าทางคณะกรรมการคงจะมีการแก้ไขปัญหาการตัดสินของตัวเองบ้าง

เพราะต่อให้มีการพัฒนาวงการฟุตบอลในบ้านเรามากแค่ไหน หากกรรมการไม่มีการพัฒนาตามด้วย

ก็คงจะเปล่าประโยชน์ที่ เราจะได้เห็นความเจริญของวงการฟุตบอลไทย

Redroom…[code]

[Admin]

เห็นด้วย

บทความแหล๋ม